กระท่อม สมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาแต่มีสารเสพติดจริงมั๊ย ?
กระท่อม ในประเทศไทยมีการนำมาใช้เป็นยาสมุนไพร ใช้แก้โรคบิด ท้องร่วง และปวดมวนท้อง และบางพื้นที่กล่าวกันต่อมาว่า กระท่อมสามารถบรรเทาโรคเบาหวานได้ ชาวนานิยมบริโภคโดยการเคี้ยวใบกระท่อมสด หรือเอาใบกระท่อมมาย่างให้เกรียมและตำผสมกับน้ำพริกรับประทานเป็นอาหาร เพื่อให้มีแรงทำงานและสามารถทนตากแดด อยู่กลางแจ้งได้เป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกเหนื่อย ชาวมลายูใช้ใบกระท่อมตำพอกแผล และใช้ทั้งใบเผาให้ร้อนวางบนท้องรักษาโรคม้ามโต ตลอดจนใช้กระท่อมเพื่อทดแทนฝิ่นในท้องที่ซึ่งหาฝิ่นไม่ได้ และบ่อยครั้งมีการใช้ใบกระท่อมเพื่อควบคุมการติดฝิ่น โดยเฉพาะในประเทศนิวซีแลนด์ในปัจจุบัน
กระท่อม คืออะไร ?
กระท่อม หรือที่เราเคยได้ยินชื่อว่า ใบกระท่อม เป็นต้นพืชใบเขียวในวงศ์กาแฟ เป็นพืชท้องถิ่นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, พม่า และ ปาปัวนิวกินี ที่ซึ่งปรากฏหลักฐานการใช้กระท่อมเป็นยาสมุนไพรใช้ทำยารักษาโรคมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่พบในประเทศไทยมีอยู่ 3 พันธุ์ คือ แตงกวา (ก้านเขียว) ยักษาใหญ่ (รูปใบใหญ่) และก้านแดง มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละที่ เช่น ในประเทศไทย ภาคเหนือเรียกอีด่าง อีแดง กระอ่วม ภาคใต้ เรียกท่อม หรือท่ม ในมลายูเรียกคูทุม(Kutum) หรือ คีทุมเบีย (Ketum Bia) หรือ เบียก (Biak) ลาวเรียก ไนทุม (Neithum) อินโดจีน เรียก โคดาม (Kodam) กระท่อมมีคุณสมบัติคล้ายสารกระตุ้น มีข้อมูลที่ระบุว่าประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใช้กระท่อมเป็นยารักษาโรคนั้น ยังไม่สามารถสรุปผลได้ และยังคงไม่ได้รับการอนุมัติเป็นยารักษาโรค เนื่องจากงานวิจัยเกี่ยวกับกระท่อมจำนวนมากยังขาดคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ปรากฏผู้คนบางส่วนใช้กระท่อมเพื่อบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง, อาการถอนฝิ่น รวมไปถึงการใช้ในเชิงนันทนาการให้ความสนุกสนาน ระยะเวลาในการแสดงผลของกระท่อมอยู่ที่ประมาณ 5-10 นาที และฤทธิ์ของกระท่อมจะคงอยู่ไปนานถึง 2-5 ชั่วโมง
สรรพคุณทางยาสมุนไพรของใบกระท่อม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
กระท่อมเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ปานกลาง มีแก่นเป็นไม้เนื้อแข็ง สูง10 -15 เมตร อยู่ในตระกูล Mitragyna speciosa ใบคล้ายใบกระดังงา มีชนิดก้านใบแดงและใบเขียว ดอกกลมโตขนาดเท่าผลพุทรา ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียว เรียงตัวเป็นคู่ตรงข้าม แผ่นใบขนาดกว้างประมาณ 5-10 ซม. ยาวประมาณ 8-14 ซม. ดอกมีสีขาวอมเหลืองออกเป็นช่อตุ้มกลมขนาด 3-5 ซม. แหล่งที่พบ ในบางจังหวัดของภาคกลาง เช่น ปทุมธานี แต่จะพบมากในป่าธรรมชาติบริเวณภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูลพัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และตอนบนของประเทศมาเลเซีย
สารสำคัญที่พบในใบกระท่อม
ใบกระท่อมประกอบด้วยสารสารแอลคาลอยด์ (อัลคาลอยด์) ทั้งหมดประมาณร้อยละ ๐.๕ ในจำนวนนี้เป็น สารมิตราไจนีน (Mitragynine) ร้อยละ ๐.๒๕ ที่เหลือเป็น สารสเปโอไจนีน (Speciogynine) สารไพแนนทีน (Paynanthine) สารสเปซิโอซีเลียทีน (Speciociliatine) ตามลำดับ ซึ่งชนิดและปริมาณอัลคาลอยด์ที่พบแตกต่างกัน ตามสถานที่ และเวลาที่เก็บเกี่ยว ซึ่งแบ่งตามสูตรโครงสร้างได้สารประกอบ ๔ ประเภท คือ
- อินโดอัลคาลอยด์ (Indole Alkaloids)
- ออกอินโดลแอลคะลอยด์ (Oxindole Alkaloids)
- ฟลาวานอยด์ (Elavanoids)
- กลุ่มอื่น ๆ เช่น ไฟโตสเตอรอล (Phytosterol), แทนนิน (Tannins)
กระท่อมมีสารเสพติด จริงมั๊ย?
ใบกระท่อมมีสารเสพติด คือ ไมทราไจนีน (Mitragynine) เป็นสารแอลคาลอยด์ (อัลคาลอยด์) ที่ได้จากพืช ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง (CNS depressant) เช่นเดียวกับยาเสพติดกลุ่มเดียวกัน เช่น psilocybin LSD และ ยาบ้า กระท่อมจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ชนิดเดียวกับกัญชา ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ปี 2522 มาตรา 7
สรรพคุณทางยาสมุนไพรของใบกระท่อม
กระท่อมเป็นพืชสมุนไพรตั้งแต่สมัยโบราณ แพทย์แผนไทยใช้เข้าเป็นตัวยาในตำรับพวกประเภทยาแก้ท้องเสีย ปวดเบ่ง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ท้องเสีย ท้องเฟ้อ ท้องร่วง ท าให้นอนหลับ และระงับประสาท ในมุมมองของแพทย์แผนไทยส่วนใหญ่ จะนำพืชใบกระท่อมมาใช้เป็นยารักษาแก้ท้องร่วง ในสูตรยาของหมอพื้นบ้านหรือหมอแผนโบราณหรือแพทย์แผนไทย เช่น ตำรับยาประสะกระท่อม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาขนาดนี้แล้ว เพราะมียาแผนปัจจุบันและแผนโบราณให้ผลเท่าเทียมหรือดีกว่าอีกทั้ง แม้ใบกระท่อมให้ผลการออกฤทธิ์ที่อาจมีประโยชน์ทางยาได้ แต่ทำให้เสพติดและมีผลเสียต่อสุขภาพ หากใช้ติดต่อกันนานๆ การนำใปใช้ในทางที่ผิด ปัจจุบันใบกระท่อมมีปัญหาการแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นและนักเรียน อาจเนื่องมาจากมีราคาถูกและทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มได้เช่นเดียวกับสารเสพติดอื่น โดยมักนิยมนำน้ำกระท่อมต้ม ผสมกับโค้ก ยากันยุง และยาแก้ไอ
ประโยชน์ของใบกระท่อม
จากงานวิจัยพบว่าในใบกระท่อมทำปฏิกิริยากับร่างกายมีผลต่อเซลล์ประสาทบางชนิดในร่างกายในการรับรู้ความเจ็บปวด กระท่อมถูกนำมาใช้รักษาบรรเทาอาการเหล่านี้
- ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น อาการปวดที่ไม่พึงประสงค์เป็นผลจากการบาดเจ็บทางร่างกาย เนื้อเยื่อ ปวดหลัง ระบบประสาท กล้ามเนื้อ หรือเส้นเอ็น อาการปวดที่เกิดจากภาวะเรื้อรัง เช่น โรคระบบประสาทส่วนกลางเสื่อม มะเร็ง เบาหวาน โรคข้ออักเสบ เป็นต้น โดยไม่คำนึงถึงที่มาความเจ็บปวดจะส่งผลต่อร่างกายทั้งทางร่างกายและจิตใจ
- ช่วยรักษาอาการไอ
- ช่วยลดการหลั่งกรด
- ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้เล็ก
- ใบกระท่อมช่วยให้มีสมาธิและระงับประสาท
- แก้ท้องเสีย ท้องร่วง ปวดเบ่ง แก้บิด
- แก้ปวดฟัน
- ทำให้นอนหลับ และระงับประสาท
- แก้ปวดเมื่อยร่างกาย
- ช่วยให้ทํางานทนไม่หิวง่าย
- ใช้ใบกระท่อมเพื่อระงับอาการกล้ามเนื้อกระตุก
- เป็นยาคลายกล้ามเนื้อ
- นำไปใช้บรรเทาอาการปวดแทนมอร์ฟีน โดยมีความแรงต่ำกว่ามอร์ฟีนประมาณ 10 เท่า และมีข้อดีกว่ามอร์ฟีนอยู่หลายประการ เช่น กระท่อมไม่กดระบบทางเดินหายใจ ไม่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ใช้บำบัดอาการติดฝิ่นหรือมอร์ฟีนได้
- ใช้บำบัดผู้ติดยาเสพติด
*ที่มาข้อมูล:
- เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม
- เว็บไซต์กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
ตอบกลับ