อาการฮ่องเต้ซินโดรมพ่อแม่ตามใจลูกมากเกินไป จะรักษาหายมั๊ย
ฮ่องเต้ซินโดรม (Little Emperor Syndrome) คือกลุ่มอาการของบรรดาลูกๆ ที่พ่อแม่ตามใจ โดยยกเอามาจากพฤติกรรมของการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ประเทศจีน ที่เลี้ยงลูกจากนโยบายลูกคนเดียว พ่อแม่ต้องตามใจลูก พะเน้าพะนอลูก พยายามหาสิ่งต่างๆ มาให้ลูกจนเกินความจำเป็น โดยไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์หรือกติกาใดๆ ส่งผลเสียกับลูกในอนาคต
สาเหตุของอาการฮ่องเต้ซินโดรม
อาการฮ่องเต้ซินโดรมนั้น มีสาเหตุมาจากปัจจัย เช่น
- การเลี้ยงดูแบบตามใจ พ่อแม่หรือผู้ปกครองที่เลี้ยงลูกด้วยความรักและเป็นห่วงมากเกินไป มักจะทำทุกอย่างให้ตามที่ลูกต้องการ โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลหรือผลที่ตามมา ส่งผลให้เด็กเติบโตมาโดยขาดการเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์และความต้องการของตนเอง
- ความคาดหวังของพ่อแม่ พ่อแม่หรือผู้ปกครองที่มีความคิดหรือความเชื่อบางอย่างเกี่ยวกับลูก มักจะคาดหวังให้ลูกเป็นแบบนั้น โดยไม่สนใจว่าลูกจะอยากเป็นอะไรหรือชอบอะไร ส่งผลให้เด็กรู้สึกกดดันและพยายามทำตามความต้องการของพ่อแม่ โดยไม่สนใจความต้องการของตนเอง
- สภาพแวดล้อมทางสังคม เด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะดี มักจะได้รับการเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย ได้รับสิ่งของหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ส่งผลให้เด็กมีแนวโน้มที่จะเป็นคนเอาแต่ใจและขาดความอดทน
- เทคโนโลยี เด็กที่ใช้เวลากับเทคโนโลยีมากเกินไป เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต มักจะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและขาดความอดทน เนื่องจากการเสพสื่อต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม
พฤติกรรมของอาการฮ่องเต้ซินโดรม
อาการฮ่องเต้ซินโดรมสามารถแสดงพฤติกรรมออกได้หลายลักษณะ เช่น
- เป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการ
- ขาดความอดทน หงุดหงิดง่าย เมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการ
- ขาดความรับผิดชอบ ไม่รู้จักช่วยเหลือตนเอง
- ขาดทักษะการแก้ปัญหา เมื่อเจอกับปัญหาจะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง
- มีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่น เนื่องจากขาดทักษะการเข้าสังคม
ฮ่องเต้ซินโดรมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสังคมปัจจุบัน ส่งผลให้เด็กและเยาวชนเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่มีความบกพร่องทางสังคมและอารมณ์ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อตนเองและผู้อื่นได้ ผู้ปกครองจึงควรตระหนักถึงปัญหานี้ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเลี้ยงดูลูก เพื่อให้ลูกเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่มีวุฒิภาวะและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข
กลุ่มเสี่ยงอาการฮ่องเต้ซินโดรม
กลุ่มเสี่ยงของอาการฮ่องเต้ซินโดรม มักพบในกลุ่มเด็กหรือวัยรุ่นที่เติบโตในครอบครัวที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดี มีพ่อแม่ที่ทำงานหนัก ทั้งพ่อแม่มีเวลาเลี้ยงดูลูกมาก และคาดหวังให้ลูกประสบความสำเร็จสูง และพ่อแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาเลี้ยงดูลูก ทำให้พ่อแม่ต้องพึ่งพาพี่เลี้ยงหรือคนรับใช้เป็นหลัก เด็กเหล่านี้จึงได้รับการเลี้ยงดูอย่างตามใจ พ่อแม่มักจะตอบสนองความต้องการของลูกได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคอย เพื่อไม่ให้ลูกต้องลำบากหรือขาดสิ่งใดไป ส่งผลให้เด็กเหล่านี้เติบโตมาโดยมีพฤติกรรมเอาแต่ใจ มีความต้องการสูง มั่นใจในตัวเองสูง ขาดความอดทน ไม่ยอมรับการปฏิเสธ ขาดการฝึกฝนทักษะในการรอคอย และไม่สามารถรับมือกับความล้มเหลวได้
เด็กหรือวัยรุ่นที่เติบโตในครอบครัวที่มีจำนวนสมาชิกน้อย มักถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจเช่นกัน เนื่องจากพ่อแม่มักจะมีเวลาและทรัพยากรในการตอบสนองความต้องการของลูกอย่างเต็มที่ ส่งผลให้เด็กเหล่านี้เติบโตมาโดยขาดการขัดเกลาจากสังคม ทำให้ขาดความอดทนและทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
นอกจากปัจจัยด้านครอบครัวแล้ว เด็กหรือวัยรุ่นที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญาหรือพัฒนาการ มักมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการฮ่องเต้ซินโดรม เนื่องจากเด็กเหล่านี้อาจมีปัญหาในการทำความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของสังคม ทำให้พ่อแม่ต้องคอยตามใจและดูแลเป็นพิเศษ
อาการฮ่องเต้ซินโดรม รักษาหายมั๊ย
ฮ่องเต้ซินโดรมสามารถรักษาให้หายได้ หากพ่อแม่ตระหนักถึงปัญหาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเลี้ยงดู ตาม วิธีการรักษาอาการฮ่องเต้ซินโดรม
วิธีการรักษาอาการฮ่องเต้ซินโดรม
วิธีแก้ไขอาการฮ่องเต้ซินโดรมสามารถทำได้โดยผู้ปกครองควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเลี้ยงดูลูกดังนี้
- ตั้งกฎเกณฑ์และขอบเขตให้ชัดเจน ให้ลูกเรียนรู้ที่จะเคารพกฎเกณฑ์และปฏิบัติตาม โดนอาจเริ่มจากการตั้งกฎเกณฑ์ที่อยู่ร่วมกันในครอบครัวง่ายๆ ใช้เวลาฝึกฝน
- สอนลูกให็รู้จักเหตุและผล และแนะนำตัวอย่างการตัดสินใจ
- สอนลูกให้รู้จักช่วยเหลือตนเองและรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง
- สอนลูกให้รู้จักการเผชิญกับปัญหา วิธีแก้ไข และยอมรับความล้มเหลว
- สอนลูกให้รู้จักความอดทน รอคอยสิ่งต่างๆ ได้
- สอนลูกให้รู้จักทักษะการเข้าสังคม
- สอนลูกให้รู้จักการแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่น
- สอนลูกให้รู้จักการเสียสละ
- สอนลูกให้รู้จักการให้อภัย
นอกจากนี้ ผู้ปกครองควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก เพื่อให้ลูกซึมซับพฤติกรรมที่ดีไปด้วย
ผลกระทบจากอาการฮ่องเต้ซินโดรม
อาการฮ่องเต้ซินโดรมอาจส่งผลเสียต่อเด็กและวัยรุ่นหลายประการ เช่น เด็กอาจเติบโตมาเป็นคนที่เอาแต่ใจ ขาดความอดทน ปรับตัวได้ยาก มีปัญหาในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น และอาจนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวหรือรุนแรงได้ พ่อแม่ควรตระหนักถึงปัญหานี้ และปรับเปลี่ยนรูปแบบการเลี้ยงดูให้เหมาะสม เพื่อให้เด็กเติบโตมาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ มีวินัย และปรับตัวได้กับสังคม
อาการฮ่องเต้ซินโดรม สามารถส่งผลเสียต่อเด็กในด้านต่างๆ ดังนี้
- พัฒนาการด้านจิตใจ เด็กอาจจะขาดความมั่นใจในตนเอง รู้สึกโดดเดี่ยว และไม่เข้าใจคุณค่าของตนเอง
- พัฒนาการด้านสังคม เด็กอาจจะมีปัญหาในการเข้าสังคม ไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น และเข้ากับผู้อื่นได้ยากหรือถึงขั้นเข้ากับผู้อื่นไม่ได้
- พัฒนาการด้านการศึกษา เด็กอาจจะมีปัญหาในการเรียน ไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างเต็มที่
- พัฒนาการด้านทักษะและอาชีพ เด็กอาจจะมีปัญหาในการปรับตัวในการทำงาน เมื่อเจออุปสรรคหรือความเครียดอาจไม่สามารถปรับตัวหรือแก้ไขสถานะการณ์ต่างๆในที่ทำงานได้
หากพบว่าลูกมีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงอาการฮ่องเต้ซินโดรม พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรรีบหาวิธีแก้ไขโดยเร็ว โดยการพูดคุยกับลูกอย่างเข้าใจ สอนให้รู้จักควบคุมอารมณ์และความต้องการของตนเอง สอนให้รู้จักความอดทน และสอนให้รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น หรือพาลูกพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เพื่อรับการบำบัดทางจิตวิทยา ซึ่งจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเอง และปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดีขึ้น
โทรสอบถามข้อมูล ปรึกษาปัญหาเรื่องจิตเวช โทร 1323
*ที่มาข้อมูล:
- เว็บไซต์กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
- เว็บไซต์องค์การอนามัยโลก (WHO)
ตอบกลับ