Health Projectสุขภาพร่างกาย

นม ปลอดภัยจากโรคแอนแทรกซ์ หรือไม่ มีวิธีตรวจสอบอย่างไร

นมที่เราดื่มทุกวันปลอดภัยจากแอนแทรกซ์หรือไม่? เลือกซื้อและบริโภคอย่างไรให้มั่นใจ ใช้นมพาสเจอร์ไรส์/UHT เลี่ยงนมดิบ ตรวจสอบ อย. และภาชนะบรรจุ
นม ปลอดภัยจากโรคแอนแทรกซ์ หรือไม่

นมวัวที่ดื่มปลอดภัยจากโรคแอนแทรกซ์จริงหรือไม่ ตรวจสอบได้อย่างไร

จากข้อมูลเกี่ยวกับโรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) ว่าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่มีความร้ายแรง เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอาการป่วยรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น นม จึงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของนมวัวที่ดื่ม ว่ามีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อแอนแทรกซ์หรือไม่ และมีวิธีตรวจสอบเบื้องต้นได้อย่างไร

โรคแอนแทรกซ์และการติดต่อสู่คน

โรคแอนแทรกซ์ในสัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย แพะ แกะ มักเกิดจากการสัมผัสหรือกินสปอร์ของเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ในดิน หญ้า หรือน้ำ เมื่อสัตว์ป่วยเป็นโรคแอนแทรกซ์ เชื้อจะแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย รวมถึงในเลือดและน้ำนม การติดต่อสู่คนส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการสัมผัสสัตว์ป่วยหรือซากสัตว์ที่ตายด้วยโรคแอนแทรกซ์ การสัมผัสผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น หนังสัตว์ ขนสัตว์ หรือกระดูกสัตว์ ก็สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การติดต่อผ่านการบริโภคนมที่ปนเปื้อนเชื้อแอนแทรกซ์นั้นพบได้น้อยมาก

ความเสี่ยงของการปนเปื้อนเชื้อแอนแทรกซ์ในนมวัว

ถึงแม้ว่าเชื้อแอนแทรกซ์สามารถพบได้ในน้ำนมของวัวที่ป่วย แต่โอกาสที่นมที่วางจำหน่ายทั่วไปจะปนเปื้อนเชื้อแอนแทรกซ์นั้นค่อนข้างต่ำ เนื่องจากมีมาตรการควบคุมและป้องกันโรคในสัตว์อย่างเข้มงวด รวมถึงกระบวนการผลิตและฆ่าเชื้อนมที่มีมาตรฐาน

มาตรการควบคุมและป้องกันโรคแอนแทรกซ์ในสัตว์

หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมีบทบาทสำคัญในการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในสัตว์ โดยมีมาตรการต่างๆ ดังนี้:

  • การเฝ้าระวังโรค: มีระบบการเฝ้าระวังการเกิดโรคแอนแทรกซ์ในสัตว์อย่างต่อเนื่อง หากพบสัตว์ป่วย จะมีการกักกันและดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคทันที
  • การฉีดวัคซีน: ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคแอนแทรกซ์ จะมีการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคในสัตว์
  • การจัดการซากสัตว์: ซากสัตว์ที่ตายด้วยโรคแอนแทรกซ์จะต้องได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
  • การควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์: มีการควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์จากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไปยังพื้นที่อื่น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ

กระบวนการผลิตและฆ่าเชื้อโรคในกระบวนการผลิตน้ำนม

อุตสาหกรรมนมมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและมีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด นมที่ผลิตเพื่อจำหน่ายจะต้องผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ (Pasteurization) ซึ่งเป็นกระบวนการให้ความร้อนในระดับที่สามารถทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย รวมถึงเชื้อแบคทีเรียแอนแทรกซ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กระบวนการพาสเจอร์ไรซ์นม เพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรียแอนแทรกซ์

กระบวนการพาสเจอร์ไรซ์ (Pasteurization) ทำให้ปลอดภัยจากโรคแอนแทรกซ์

นมเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งที่จุลินทรีย์ก่อโรคสามารถเจริญเติบโตได้ดี การบริโภคนมดิบที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อจึงอาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ กระบวนการ พาสเจอร์ไรซ์ (Pasteurization) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการผลิตนมที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค

พาสเจอร์ไรซ์ คือ กระบวนการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายในนม โดยการให้ความร้อนในระดับที่สามารถทำลายแบคทีเรียก่อโรค เช่น Salmonella, E. coli O157:H7 และ Listeria monocytogenes รวมถึงลดปริมาณจุลินทรีย์อื่นๆ ที่อาจทำให้นมบูดเสียได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติของนมมากนัก

กระบวนการพาสเจอร์ไรซ์นมมีอยู่หลายวิธี แต่ที่นิยมใช้หลักๆ คือ:

  1. Low Temperature Long Time (LTLT): การให้ความร้อนที่อุณหภูมิ $63^\\circ C$ เป็นเวลา 30 นาที
  2. High Temperature Short Time (HTST): การให้ความร้อนที่อุณหภูมิ $72^\\circ C$ เป็นเวลา 15 วินาที ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมนมขนาดใหญ่
  3. Ultra-High Temperature (UHT): การให้ความร้อนที่อุณหภูมิ $135^\\circ C$ เป็นเวลา 2-5 วินาที วิธีนี้สามารถทำลายจุลินทรีย์ได้เกือบทั้งหมด ทำให้นมมีอายุการเก็บรักษานานขึ้นโดยไม่ต้องแช่เย็น

การพาสเจอร์ไรซ์นมจึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการรับประกันความปลอดภัยของผู้บริโภค ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่มาจากการบริโภคนม และช่วยยืดอายุการเก็บรักษานม ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์นมที่มีคุณภาพและปลอดภัยได้ง่ายยิ่งขึ้น

กระบวนการเหล่านี้สามารถทำลายเชื้อแบคทีเรียแอนแทรกซ์ได้อย่างแน่นอน ทำให้มั่นใจได้ว่านมที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์แล้วมีความปลอดภัยต่อการบริโภค

วิธีตรวจสอบเบื้องต้นว่านมปลอดภัยจากโรคแอนแทรกซ์หรือไม่

ในฐานะผู้บริโภค การตรวจสอบเบื้องต้นเพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของนมที่เราบริโภคจากโรคแอนแทรกซ์หรือไม่สามารถทำได้ดังนี้:

  1. เลือกซื้อนมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ: ควรเลือกซื้อนมจากผู้ผลิตหรือแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีมาตรฐานการผลิตและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
  2. ตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์: อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มา วันที่ผลิต วันหมดอายุ และวิธีการเก็บรักษา ควรเลือกซื้อนมที่มีฉลากระบุชัดเจนและมีเครื่องหมาย อย.
  3. สังเกตลักษณะของนม: นมที่ปลอดภัยควรมีลักษณะปกติ คือ มีสีขาวหรือสีครีมอ่อน ไม่มีตะกอนหรือสิ่งแปลกปลอม ไม่มีกลิ่นหรือรสชาติที่ผิดปกติ
  4. ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: บรรจุภัณฑ์ของนมควรอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีการรั่วซึมหรือเสียหาย
  5. หลีกเลี่ยงนมดิบที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ: การบริโภคนมดิบที่ไม่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อมีความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงเชื้อแอนแทรกซ์ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคนมดิบโดยเด็ดขาด
  6. ติดตามข่าวสาร: ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโรคแอนแทรกซ์ หากมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ในพื้นที่นั้นจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ข้อควรระวังเพิ่มเติม:

  • หากพบสัตว์เลี้ยงในฟาร์มมีอาการป่วยผิดปกติ เช่น มีไข้สูง ซึม ไม่กินอาหาร มีเลือดไหลออกจากทวาร หรือตายกะทันหัน ห้ามสัมผัสซากสัตว์โดยเด็ดขาด และแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที
  • สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อย่างเคร่งครัดในการป้องกันและควบคุมโรคแอนแทรกซ์ในฝูงสัตว์

โดยทั่วไปแล้ว นมวัวที่ผ่านกระบวนการผลิตและฆ่าเชื้อตามมาตรฐานมีความปลอดภัยจากโรคแอนแทรกซ์ เนื่องจากมีมาตรการควบคุมและป้องกันโรคในสัตว์อย่างเข้มงวด รวมถึงกระบวนการพาสเจอร์ไรซ์ที่มีประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อโรค อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรเลือกซื้อนมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบฉลากและลักษณะของผลิตภัณฑ์ รวมถึงหลีกเลี่ยงการบริโภคนมดิบที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยต่อสุขภาพ


บทความของ โครงการการศึกษาความรอบรู้เฉพาะเรื่อง เกี่ยวกับสุขภาพ, กายภาพบำบัดและการนวดช่วยดูแลสุขภาพ บรรเทาอาการผ่านการเรียนรู้กายวิภาคจากสื่อออนไลน์


*ที่มาข้อมูลและรูปภาพประกอบ:
  • กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (https://ddc.moph.go.th/)
  • กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. (https://www.dld.go.th/)
  • สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.). (https://www.fda.moph.go.th/)
  • World Health Organization (WHO). (https://www.who.int/)
  • Centers for Disease Control and Prevention (CDC). (https://www.cdc.gov/)
  • Food and Drug Administration. (n.d.). Pasteurization. Retrieved from https://www.fda.gov/food/buy-store-serve-safe-food/pasteurization
  • International Dairy Foods Association. (n.d.). Pasteurization. Retrieved from https://www.idfa.org/pasteurization
  • เว็บไซต์รูปภาพฟรี (https://unsplash.com/)

Shares: