ทำไมอาหารแปรรูปจึงอันตรายต่อสุขภาพ
ในยุคที่วิถีชีวิตเร่งรีบ “อาหารแปรรูป” (Processed foods) กลายเป็นส่วนหนึ่งที่แยกไม่ออกจากชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นอาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว หรือเครื่องดื่มบรรจุขวดที่หาซื้อได้ง่ายและสะดวกสบาย แต่ภายใต้ความสะดวกสบายเหล่านั้น กลับซ่อนเร้นอันตรายที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงเหตุผลว่าทำไมอาหารแปรรูปจึงเป็นภัยเงียบต่อสุขภาพของเรา และทำความเข้าใจถึงกระบวนการทางเคมีที่ทำให้เกิดอันตรายเหล่านั้น
อาหารแปรรูป คืออะไร
ก่อนที่จะเจาะลึกถึงอันตราย เรามาทำความเข้าใจกับนิยามของอาหารแปรรูปและประเภทต่างๆกันก่อนว่า “อาหารแปรรูป” คืออะไร โดยทั่วไป อาหารแปรรูป (Processed foods) หมายถึงอาหารที่ผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลงสภาพจากวัตถุดิบเดิมเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การยืดอายุการเก็บรักษา การเพิ่มรสชาติ หรือการเพิ่มความสะดวกในการบริโภค องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้แบ่งระดับการแปรรูปอาหารออกเป็น 4 ระดับหลักๆ ตามระบบ NOVA Classification System [1]:
- กลุ่ม 1: อาหารที่ไม่แปรรูปและแปรรูปน้อยที่สุด (Unprocessed and minimally processed foods): อาหารตามธรรมชาติที่ไม่ผ่านการแปรรูปเลย หรือผ่านกระบวนการน้อยที่สุด เช่น ผักผลไม้สด เนื้อสัตว์สด นมสด
- กลุ่ม 2: ส่วนผสมที่ใช้ในการทำอาหารแปรรูป (Processed culinary ingredients): ส่วนผสมที่ได้จากการสกัดหรือแปรรูปวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น น้ำมัน เกลือ น้ำตาล
- กลุ่ม 3: อาหารแปรรูป (Processed foods): อาหารที่ทำจากกลุ่ม 1 และ 2 โดยมีการเติมเกลือ น้ำตาล น้ำมัน หรือสารปรุงแต่งอื่นๆ เพื่อเพิ่มความอร่อยและยืดอายุการเก็บรักษา เช่น ขนมปัง ชีส เนื้อรมควัน
- กลุ่ม 4: อาหารแปรรูปสูง (Ultra-processed foods): อาหารที่ผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรมหลายขั้นตอน มีส่วนผสมที่ผ่านการสังเคราะห์หรือสกัดมาสูง เช่น สารให้ความหวานเทียม สารแต่งกลิ่น สี วัตถุกันเสีย มักมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ และมีพลังงานสูง เช่น น้ำอัดลม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป คุกกี้ ลูกอม ขนมขบเคี้ยว
บทความนี้จะเน้นไปที่อันตรายของ “อาหารแปรรูปสูง” ซึ่งเป็นกลุ่มที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากที่สุด
อาหารแปรรูปมีปริมาณน้ำตาล เกลือ และไขมันทรานส์ที่สูงเกินความต้องการของร่างกาย
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้อาหารแปรรูปเป็นอันตรายคือปริมาณน้ำตาล เกลือ และไขมันทรานส์ที่สูงเกินความจำเป็น ผู้ผลิตมักเติมสารเหล่านี้เพื่อเพิ่มรสชาติ ความน่ารับประทาน และยืดอายุการเก็บรักษา:
- ปริมาณน้ำตาลสูง: การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไปเป็นสาเหตุหลักของโรคอ้วน, เบาหวานชนิดที่ 2, โรคหัวใจ, และปัญหาฟันผุ [2] น้ำตาลในอาหารแปรรูปมักมาในรูปแบบของน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง (High-Fructose Corn Syrup – HFCS) ซึ่งมีผลเสียต่อตับและกระบวนการเมแทบอลิซึมของร่างกาย
- ปริมาณเกลือสูง: โซเดียมในปริมาณที่มากเกินไปจากเกลือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งนำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคไตวาย [3]
- ปริมาณไขมันทรานส์: ไขมันทรานส์ เป็นไขมันที่เกิดขึ้นจากการเติมไฮโดรเจนลงในน้ำมันพืชเพื่อให้แข็งตัว มักพบในขนมอบ คุกกี้ และอาหารทอด ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุขภาพหัวใจ โดยจะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) [4]
การแปรรูปอาหารสูญเสียวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร
กระบวนการแปรรูปอาหารมักทำให้คุณค่าทางโภชนาการของอาหารลดลงอย่างมาก วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมักจะถูกทำลายหรือถูกกำจัดออกไปในระหว่างกระบวนการนี้:
- วิตามินและแร่ธาตุ: ความร้อน แสง และสารเคมีที่ใช้ในการแปรรูปสามารถทำลายวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญได้ ส่งผลให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น
- ใยอาหาร: ใยอาหารมีความสำคัญต่อระบบขับถ่าย ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังหลายชนิด แต่อาหารแปรรูปส่วนใหญ่มีใยอาหารน้อยมากหรือไม่มีเลย ทำให้เสี่ยงต่อปัญหาท้องผูกและโรคที่เกี่ยวข้องกับลำไส้ [5]
อาหารแปรรูปอาจมีสารปรุงแต่งและสารกันเสียที่อาจเป็นอันตราย
อาหารแปรรูปมักอุดมไปด้วยสารปรุงแต่ง สารแต่งกลิ่น สี และสารกันเสีย เพื่อเพิ่มความน่ารับประทาน ยืดอายุการเก็บรักษา และลดต้นทุนการผลิต แม้ว่าสารเหล่านี้บางชนิดจะได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานด้านความปลอดภัยของอาหาร แต่การบริโภคในปริมาณมากหรือต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง:
- สารแต่งสี: สารแต่งสีสังเคราะห์บางชนิด เช่น Tartrazine (E102) และ Allura Red (E129) มีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกับภาวะสมาธิสั้นในเด็ก [6]
- สารกันเสีย: สารกันเสีย เช่น โซเดียมไนไตรต์ (Sodium Nitrite) ที่มักพบในเนื้อแปรรูป (เช่น ไส้กรอก แฮม) สามารถทำปฏิกิริยากับโปรตีนในกระเพาะอาหารและสร้างสารประกอบไนโตรซามีน (Nitrosamines) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง [7]
- ผงชูรส (Monosodium Glutamate – MSG): แม้จะยังมีการถกเถียงกันถึงผลกระทบต่อสุขภาพ แต่การบริโภคในปริมาณมากอาจทำให้บางคนมีอาการแพ้ เช่น ปวดศีรษะ เหงื่อออก หรือหัวใจเต้นเร็ว [8]
กระบวนการทางเคมีที่ทำให้เกิดอันตราย
เบื้องหลังรสชาติที่เย้ายวนและอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานของอาหารแปรรูป คือกระบวนการทางเคมีที่ซับซ้อนและอาจก่อให้เกิดสารอันตรายขึ้นได้:
- ปฏิกิริยา Maillard Reaction: เป็นปฏิกิริยาระหว่างกรดอะมิโนกับน้ำตาลเมื่อได้รับความร้อนสูง ทำให้เกิดสีน้ำตาลทองและกลิ่นหอมน่ารับประทานในอาหารจำพวกขนมอบหรืออาหารทอด อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยานี้ยังสามารถสร้างสารประกอบที่เป็นอันตราย เช่น อะคริลาไมด์ (Acrylamide) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะในอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงที่ผ่านการทอด ปิ้ง หรืออบที่อุณหภูมิสูง เช่น เฟรนช์ฟรายส์ ขนมปังกรอบ [9]
- การเกิดลิพิดเปอร์ออกซิเดชัน (Lipid Peroxidation): การแปรรูปน้ำมันพืชโดยผ่านความร้อนสูงและออกซิเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทอดซ้ำๆ สามารถทำให้เกิดการออกซิเดชันของไขมัน ซึ่งนำไปสู่การเกิดสารอนุมูลอิสระ (Free Radicals) และสารประกอบที่เป็นพิษ เช่น มาลอนไดอัลดีไฮด์ (Malondialdehyde – MDA) ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสียหายของเซลล์และเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคเรื้อรังหลายชนิด [10]
- การก่อตัวของ Advanced Glycation End Products (AGEs): เมื่อน้ำตาลทำปฏิกิริยากับโปรตีนหรือไขมันในร่างกาย (หรือในอาหารที่ผ่านความร้อนสูง) จะเกิด AGEs ซึ่งเป็นสารที่เชื่อมโยงกับกระบวนการชราภาพ และการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอัลไซเมอร์ [11] อาหารแปรรูปที่ผ่านการทอด ปิ้ง หรืออบที่อุณหภูมิสูงมักมี AGEs ในปริมาณมาก
การบริโภคอาหารแปรรูปเพิ่มความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
การบริโภคอาหารแปรรูปเป็นประจำมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับการเพิ่มความเสี่ยงของโรคเรื้อรังหลายชนิด:
- โรคอ้วนและเมแทบอลิกซินโดรม: อาหารแปรรูปมักมีแคลอรี่สูง แต่มักมีใยอาหารน้อย ทำให้ไม่อิ่มง่ายและนำไปสู่การบริโภคเกินขนาด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคอ้วน นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเมแทบอลิกซินโดรม ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคหัวใจ [12]
- โรคเบาหวานชนิดที่ 2: น้ำตาลที่สูงในอาหารแปรรูปทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและบ่อยครั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลินและโรคเบาหวานในที่สุด [13]
- โรคหัวใจและหลอดเลือด: ปริมาณเกลือและไขมันทรานส์ที่สูงในอาหารแปรรูปเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อความดันโลหิตสูง และระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด [14]
- โรคมะเร็ง: งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการบริโภคอาหารแปรรูปสูงกับการเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก [15] ซึ่งอาจเกิดจากสารเคมีที่ใช้ในการแปรรูป หรือสารที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการปรุงอาหาร
7. ผลกระทบต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรม
ไม่เพียงแต่สุขภาพกายเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ สุขภาพจิตและพฤติกรรมก็อาจได้รับผลกระทบจากการบริโภคอาหารแปรรูปเช่นกัน:
- ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล: งานวิจัยบางชิ้นพบความเชื่อมโยงระหว่างการบริโภคอาหารแปรรูปสูงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล [16] อาจเป็นเพราะอาหารแปรรูปส่งผลกระทบต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลิตสารสื่อประสาท
- ปัญหาพฤติกรรมในเด็ก: สารแต่งสีและสารกันเสียบางชนิดที่พบในอาหารแปรรูปมีการเชื่อมโยงกับภาวะสมาธิสั้นและพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็ก [17]
- การเสพติดอาหาร: อาหารแปรรูปมักถูกออกแบบมาให้มีรสชาติอร่อยและกระตุ้นการหลั่งสารโดพามีนในสมอง ทำให้เกิดความรู้สึกอยากอาหารและนำไปสู่การบริโภคอย่างต่อเนื่อง คล้ายกับการเสพติด [18]
อุตสาหกรรมอาหารแปรรูปกับการทำลายสิ่งแวดล้อม
นอกเหนือจากผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ กระบวนการผลิตและการบริโภคอาหารแปรรูป รวมถึงขยะหลังการบริโภคจากอาหารแปรรูป ยังมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม:
- การใช้ทรัพยากร: การผลิตอาหารแปรรูปมักใช้ทรัพยากรจำนวนมาก เช่น น้ำ พลังงาน และที่ดิน เพื่อปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือเลี้ยงสัตว์ในระบบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
- บรรจุภัณฑ์: อาหารแปรรูปส่วนใหญ่มักมาพร้อมกับบรรจุภัณฑ์พลาสติก เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาด้วยการควบคุมอุณหภูมิ ทำให้การนำกลับมาบริโภคจึงต้องผ่านกระบวนการความร้อน ซึ่งพลาติกที่ผ่านกระบวนการความร้อนเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคภัยที่ตามมา
- ขยะอาหาร: แม้จะมีอายุการเก็บรักษานาน แต่อาหารแปรรูปบางชนิดก็ยังคงสร้างขยะอาหารจำนวนมาก ทั้งจากกระบวนการผลิตและจากผู้บริโภคที่ทิ้งอาหารที่ยังไม่หมดอายุแต่ไม่ต้องการแล้ว
- ขยะจากบรรจุภัณฑ์: บรรจุภัณฑ์อาหารแปรรูป ส่วนใหญ่ทำจากพลาสติก เพื่อสะดวกกับการใช้งานและการอุ่นอาหารเพื่อนำมาบริโภค ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของมลภาวะพลาสติกที่ย่อยสลายได้ยาก และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทั้งบนบกและในน้ำ ก่อให้เกิดมลพิษ หากกำจัดอย่างผิดวิธี
“อาหารแปรรูป” อาจให้ความสะดวกสบายในชีวิตที่เร่งรีบ แต่แลกมาด้วยความเสี่ยงต่อสุขภาพที่ร้ายแรง การทำความเข้าใจถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ในอาหารเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นปริมาณน้ำตาล เกลือ ไขมันทรานส์ที่สูง การสูญเสียสารอาหารที่จำเป็น สารปรุงแต่งที่เป็นอันตราย ไปจนถึงกระบวนการทางเคมีที่ก่อให้เกิดสารพิษ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
การเลือกบริโภคอาหารสดใหม่ ไม่ผ่านการแปรรูป หรือผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ธัญพืชไม่ขัดสี และถั่วต่างๆ เป็นก้าวแรกสู่การมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว การตระหนักถึงสิ่งที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวัน จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกอาหารได้อย่างชาญฉลาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งต่อตัวเราและโลกของเรา
*ที่มาข้อมูลและรูปภาพประกอบ:
- [1] Monteiro, C. A., Cannon, G., Moubarac, J. C., Levy, R. B., Louzada, M. L. C., & Jaime, P. C. (2018). The UN Decade of Nutrition, the NOVA food classification and the trouble with ultra-processing. Public Health Nutrition, 21(1), 5-17.
- [2] Yang, Q., Zhang, Z., Gregg, E. W., Flanders, W. D., Merritt, R., & Hu, F. B. (2014). Added sugar intake and cardiovascular diseases mortality among US adults. JAMA Internal Medicine, 174(4), 516-524.
- [3] Aburto, N. J., Ziolkovska, A., Hooper, L., Elliott, P., Cappuccio, F. P., & Meerpohl, J. J. (2013). Effect of lower sodium intake on health: systematic review and meta-analyses. BMJ, 346, f1326.
- [4] Mozaffarian, D., Aro, A., & Willett, W. C. (2009). Health effects of trans-fatty acids: experimental and observational evidence. European Journal of Clinical Nutrition, 63(S2), S5-S21.
- [5] Slavin, J. L. (2005). Dietary fiber and body weight. Nutrition Reviews, 63(11), 384-394.
- [6] McCann, D., Barrett, A., Cooper, A., Crumpler, D., Dalen, E., Grimshaw, K., … & Stevenson, J. (2007). Food additives and hyperactive behaviour in 3-year-old and 8/9-year-old children in the community: a randomised, double-blind, placebo-controlled trial. The Lancet, 370(9598), 1560-1567.
- [7] Jakszyn, P., & Gonzalez, C. A. (2006). Nitrosamine and related food intake and gastric cancer risk: a systematic review of the epidemiological evidence. World Journal of Gastroenterology, 12(27), 4296-4303.
- [8] Walker, R., & Lupien, J. R. (2000). The safety evaluation of monosodium glutamate. The Journal of Nutrition, 130(4), 1049S-1052S.
- [9] Tareke, E., Rydberg, P., Karlsson, P., Eriksson, S., & Törnqvist, L. (2002). Acrylamide: a novel food carcinogen. Mutation Research/Genetic Toxicology and Environmental Mutagenesis, 506, 41-49.
- [10] Ayala, A., Muñoz, M. F., & Argüelles, S. (2014). Lipid peroxidation: The junk food of the cell. Cellular and Molecular Biology, 60(1), 1-7.
- [11] Uribarri, J., Woodruff, S., Goodman, S., Cai, W., Chen, X., Vargas-Haley, P. J., … & Vlassara, H. (2005). Advanced glycation end products in foods and a practical guide to their reduction in the diet. Journal of the American Dietetic Association, 105(7), 1167-1180.
- [12] Hall, K. D., Ayuketah, A., Brychta, R., Cai, H., Cassimatis, C., Chen, K. Y., … & Miller, A. (2019). Ultra-processed diets cause excess calorie intake and weight gain: An inpatient randomized controlled trial of ad libitum food intake. Cell Metabolism, 30(1), 67-77.e3.
- [13] Malik, V. S., Popkin, B. M., Bray, G. A., Després, J. P., & Hu, F. B. (2010). Sugar-sweetened beverages, obesity, type 2 diabetes mellitus, and cardiovascular disease risk. Circulation, 121(11), 1356-1364.
- [14] Micha, R., Wallace, S. K., & Mozaffarian, D. (2010). Red and processed meat consumption and risk of incident coronary heart disease, stroke, and diabetes: a systematic review and meta-analysis. Circulation, 121(21), 2271-2283.
- [15] Touvier, M., Buscail, C., Baudry, J., & Srour, B. (2020). Ultra-processed foods and cancer risk: a prospective cohort study (NutriNet-Santé). BMJ, 371, m3229.
- [16] Lai, J. S., Hiles, S., Bisquera, A., Cleary, M., Sainsbury, A., & Parker, H. M. (2019). A systematic review and meta-analysis of dietary patterns and depression. BMC Psychiatry, 19(1), 273.
- [17] Nigg, J. T., Lewis, E., Zewe, G., & Staton, J. (2012). Dietary sensitivities and ADHD: A meta-analysis of placebo-controlled studies. Journal of the American Academy of Child and Adolescent Psychiatry, 51(3), 296-304.
- [18] Gearhardt, A. N., Corbin, W. R., & Brownell, K. D. (2009). Food addiction: an examination of the diagnostic criteria for substance dependence. Addiction, 104(8), 1251-1262.
- เว็บไซต์รูปภาพฟรี (https://unsplash.com//)