ผลเสียของไมโครพลาสติกต่อสุขภาพ จากระบบย่อยอาหารสู่กระแสเลือดของเรา
เมื่อพูดถึง ไมโครพลาสติก หลายคนมักนึกถึงภาพขยะพลาสติกในทะเล หรือบนชายหาด แต่ความจริงที่น่าตกใจกว่านั้นคือ อนุภาคพลาสติกขนาดจิ๋วเหล่านี้ได้แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเราแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอาหารและน้ำดื่มที่บริโภคในชีวิตประจำวัน จนเกิดคำถามสำคัญว่า ไมโครพลาสติกส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราอย่างไร? และมันสามารถเดินทางไปส่วนไหนในร่างกายได้บ้าง?
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเส้นทางการเดินทางของไมโครพลาสติกในร่างกายมนุษย์ ตั้งแต่ทางเข้าระบบย่อยอาหารไปจนถึงการค้นพบในกระแสเลือด พร้อมเจาะลึกถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจอย่างจริงจัง
เส้นทางการเดินทางของไมโครพลาสติกในร่างกาย
การที่ไมโครพลาสติกจะเข้าสู่ร่างกายได้นั้นมีหลายช่องทาง แต่ช่องทางหลักที่น่ากังวลที่สุดคือการกินและการหายใจ
- ผ่านระบบทางเดินอาหาร: นี่คือเส้นทางที่นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานชัดเจนที่สุด ไมโครพลาสติกสามารถปนเปื้อนอยู่ในอาหารและน้ำดื่มที่เราบริโภค เช่น ในอาหารทะเล น้ำดื่มบรรจุขวด เกลือทะเล หรือแม้แต่ในพืชผักบางชนิด เมื่อเรากินอาหารเหล่านี้เข้าไป ไมโครพลาสติกก็จะเดินทางเข้าสู่ระบบย่อยอาหารของเรา
- ผ่านระบบทางเดินหายใจ: นอกจากไมโครพลาสติกในน้ำแล้ว ยังมีการพบอนุภาคพลาสติกขนาดเล็กในอากาศ ซึ่งอาจมาจากยางรถยนต์ การสึกกร่อนของถนน หรือการสลายตัวของพลาสติกกลางแจ้ง เมื่อเราหายใจเอาอากาศที่มีไมโครพลาสติกปนเปื้อนเข้าไป อนุภาคเหล่านี้อาจไปสะสมในปอด
จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ การเดินทางของไมโครพลาสติกในร่างกายไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในระบบย่อยอาหารอีกต่อไป เพราะมีการค้นพบที่น่าตกใจยิ่งขึ้น
จากลำไส้สู่กระแสเลือด: หลักฐานที่น่ากังวล
เมื่อไมโครพลาสติก เข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร ส่วนใหญ่จะถูกขับถ่ายออกมาจากร่างกาย แต่ก็มีหลักฐานบ่งชี้ว่าอนุภาคขนาดเล็กมาก ๆ อาจสามารถซึมผ่านผนังลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดได้ ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสู่การเดินทางไปทั่วร่างกาย
- การค้นพบในอุจจาระ: ในปี 2018 มีการศึกษาครั้งแรกที่พบไมโครพลาสติกในอุจจาระของมนุษย์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราบริโภคพลาสติกเข้าไปจริง ๆ และอนุภาคเหล่านี้สามารถเดินทางผ่านระบบย่อยอาหารได้
- การค้นพบในกระแสเลือด: ในปี 2022 งานวิจัยจากประเทศเนเธอร์แลนด์สร้างความตกตะลึงให้กับวงการวิทยาศาสตร์ เมื่อนักวิจัยสามารถตรวจพบไมโครพลาสติกในกระแสเลือดของมนุษย์เป็นครั้งแรก โดยพบอนุภาคพลาสติกในตัวอย่างเลือดของอาสาสมัครเกือบ 80% ซึ่งบ่งชี้ว่าไมโครพลาสติกสามารถเดินทางผ่านผนังกั้นของร่างกายและไหลเวียนอยู่ในระบบไหลเวียนโลหิตได้
- การค้นพบในปอด: ไม่นานหลังจากนั้น มีการค้นพบไมโครพลาสติกในเนื้อเยื่อปอดของมนุษย์ที่เข้ารับการผ่าตัด ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการหายใจเอาอนุภาคเหล่านี้เข้าไป และอนุภาคสามารถเดินทางไปสะสมในอวัยวะภายในได้
การค้นพบเหล่านี้คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันว่า ไมโครพลาสติก ไม่ได้เป็นแค่ปัญหาภายนอกร่างกายอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพ
แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดจากแพทย์ว่าไมโครพลาสติกเป็นอันตรายต่อมนุษย์โดยตรงหรือไม่ แต่การค้นพบอนุภาคเหล่านี้ในร่างกายก็ทำให้เกิดข้อกังวลที่สำคัญหลายประการ โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งข้อสมมติฐานถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้:
- การอักเสบในร่างกาย: อนุภาคขนาดเล็กของไมโครพลาสติกอาจถูกร่างกายมองว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเกิดการตอบสนองและนำไปสู่การอักเสบในอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งการอักเสบเรื้อรังเป็นสาเหตุของโรคร้ายหลายชนิด
- สารเคมีที่เป็นอันตราย: พลาสติกประกอบด้วยสารเคมีหลายชนิด เช่น สารเสริมสภาพพลาสติก (plasticizers) หรือสารหน่วงไฟ ซึ่งอาจรบกวนการทำงานของฮอร์โมนในร่างกายได้ (endocrine disruption) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารกลุ่ม BPA และ Phthalates ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าอาจส่งผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์และการพัฒนาของร่างกาย
- การเป็นพาหะนำสารพิษ: ไมโครพลาสติกมีคุณสมบัติในการดูดซับสารมลพิษอื่น ๆ ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม เช่น สารกำจัดศัตรูพืช หรือโลหะหนัก เมื่อเราบริโภคไมโครพลาสติกเข้าไป สารพิษเหล่านี้ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาและเข้าสู่ร่างกายเราได้
- ผลกระทบต่อเซลล์และ DNA: ในการทดลองกับเซลล์ในห้องปฏิบัติการ พบว่าไมโครพลาสติกสามารถทำลายผนังเซลล์และส่งผลกระทบต่อ DNA ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของเซลล์และเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งในระยะยาว
- ผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารและจุลินทรีย์ในลำไส้: การมีไมโครพลาสติกสะสมอยู่ในระบบย่อยอาหารอาจส่งผลกระทบต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ (gut microbiome) ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม การย่อยอาหาร และระบบภูมิคุ้มกัน
อย่างไรก็ตาม การศึกษาเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นและต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลกระทบที่แน่ชัดและระยะยาวต่อสุขภาพของมนุษย์
บทสรุป
การค้นพบไมโครพลาสติกในร่างกายมนุษย์ ทั้งในกระแสเลือดและเนื้อเยื่อปอด เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าปัญหาพลาสติกไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป แต่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าผลกระทบที่แน่ชัดต่อสุขภาพยังคงเป็นประเด็นที่ต้องศึกษาต่อไป แต่ข้อกังวลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอให้เราต้องเริ่มลงมือทำอย่างจริงจัง
วิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องตัวเองจากภัยเงียบนี้คือการลดการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกตั้งแต่ต้นทาง โดยเริ่มจากการ ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดหลักของไมโครพลาสติกทุติยภูมิ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการจัดการขยะพลาสติกอย่างถูกวิธี ทั้งหมดนี้คือการลงทุนเพื่อสุขภาพของเราเองและเพื่ออนาคตของโลกใบนี้
T
*ที่มาข้อมูลและรูปภาพประกอบ:
- Schwabl, P., et al. (2018). Detection of various microplastics in human stool: a prospective case series. Annals of Internal Medicine, 169(11), 743-744.
- Leslie, H. A., et al. (2022). Discovery and quantification of plastic particles in human blood. Environment International, 163, 107199.
- L. M. E. van der Zee, et al. (2022). Microplastics are present in human lung tissue. Science of The Total Environment, 843, 156947.
- World Health Organization (WHO). (2019). Microplastics in drinking-water.
- European Food Safety Authority (EFSA). (2016). Presence of microplastics and nanoplastics in food, animal feed and drinking water. EFSA Journal.
- กรมควบคุมมลพิษ. (2563). คู่มือการจัดการปัญหาขยะพลาสติก.
- World Wildlife Fund (WWF). (2019). No Plastic in Nature: Assessing the amounts of microplastics in our food and drink.
- เว็บไซต์รูปภาพฟรี (https://unsplash.com/)